การแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2025/26 ได้เข้าสู่แมตช์เดย์ที่หกซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยมีสามยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ลีกลงสนามในศึกที่ดุเดือดเป็นพิเศษ เชลซี, ลิเวอร์พูล และท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ต่างเผชิญหน้ากับคู่แข่งในเวทีที่แตกต่างกัน และสุดท้ายก็จบลงด้วยผลการแข่งขันที่ทั้งหวานและขมขื่นเชลซีพ่ายแพ้อย่างหนัก 1-2 ในเกมเยือนต่ออตาลันต้า ทีมแกร่งจากเซเรีย อา อย่างน่าเสียดาย ทำให้พวกเขาหลุดจากอันดับแปดในตารางคะแนน ขณะที่ลิเวอร์พูลเฉือนชนะอินเตอร์ มิลานด้วยลูกจุดโทษ ขึ้นมาอยู่อันดับหก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะสลาเวีย ปราก 3-0 ในบ้าน

เชลซี หลังจากคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก และฟีฟ่า คลับเวิลด์คัพ ในฤดูกาลที่แล้ว ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ทั้งในประเทศและทวีปได้สำเร็จ และยังคงเป็นทีมที่น่าเกรงขาม อย่างไรก็ตาม ฟอร์มการเล่นในฤดูกาลนี้กลับไม่คงเส้นคงวา โดยไม่สามารถชนะในลีกติดต่อกันถึง 3 นัด ทำให้ตำแหน่งในลีกของพวกเขาตกลงไป ทีมสิงห์บลูส์ขึ้นนำในนาทีที่ 25 เมื่อประตูของเปโดรได้รับการยืนยันจาก VAR ทำให้เชลซีนำ 1-0น่าเสียดายที่การนำของพวกเขาอยู่ได้ไม่นาน ในนาทีที่ 55 อตาลันต้าฉวยโอกาสจากการเปิดบอลทางฝั่งขวา โดยชิอัมมาค้ากระโดดโหม่งเข้าประตูไปอย่างสบายๆ ทำให้สกอร์กลับมาเสมอกัน ช่วงเวลาชี้ขาดมาถึงในนาทีที่ 83 เมื่ออตาลันต้าเล่นฟรีคิกอย่างรวดเร็ว ทำให้เดอ เคอเตลาเร่ยิงจากระยะไกลเข้าไปอย่างสวยงามและทำให้ทีมกลับมาแซงนำได้ เชลซีพ่ายแพ้ไป 1-2 ซึ่งเป็นการพ่ายแพ้ครั้งสำคัญที่ทำให้พวกเขาต้องประสบปัญหาในตารางคะแนนลีก

หลังจากจุดต่ำสุดในฤดูกาลที่แล้ว ความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมของอินเตอร์ มิลานได้บรรเทาลง โดยทีมเพิ่งกลับมาฟอร์มดีอีกครั้งด้วยการคว้าชัยชนะติดต่อกันสามนัดและยึดตำแหน่งตัวเต็งแชมป์กัลโช่ เซเรีย อาได้อย่างมั่นคง ในทางกลับกัน ลิเวอร์พูล แม้จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ก็มีผลงานที่ผันผวนตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ เมื่อรวมกับการปรับเปลี่ยนทีมอย่างต่อเนื่องที่ต้องการความสามัคคี จึงทำให้พวกเขาตกไปอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่าในตารางแชมเปียนส์ลีกชั่วคราวครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างผลัดกันโจมตีแต่ยังไม่สามารถทำประตูได้ ใกล้จบครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลได้จุดโทษ ซึ่งโซโบสไลยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด ส่งผลให้ทีมคว้าชัยชนะไป 1-0 คว้าสามแต้มล้ำค่าได้สำเร็จ พร้อมขยับขึ้นสู่อันดับที่หกอีกครั้ง
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แม้จะจบฤดูกาลที่แล้วในอันดับที่ต่ำกว่าในตารางพรีเมียร์ลีก แต่ก็สามารถคว้าตั๋วไปเล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ได้ด้วยการคว้าแชมป์ยูโรปาลีก ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่ ฟรังก์ ทีมได้ถูกเสริมทัพด้วยนักเตะสำคัญหลายคน ซึ่งช่วยเพิ่มความลึกของทีมและศักยภาพการแข่งขันโดยรวม หลังจากที่ต้องเผชิญกับสถิติไม่ชนะใน 5 นัดติดต่อกัน ทีมก็สามารถคว้าชัยชนะที่สำคัญได้ในนัดล่าสุดของพรีเมียร์ลีกในการพบกับสลาเวีย ปราก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แสดงฟอร์มการเล่นที่นิ่งและมั่นคง โรเมโร่ทำให้ทีมได้ประตูขึ้นนำจากการทำเข้าประตูตัวเอง ก่อนที่คูดูสจะยิงจุดโทษเข้าไป และซาก้าทำประตูจากการยิงจุดโทษอีกครั้งเพื่อปิดท้ายชัยชนะ 3-0 รักษาฟอร์มอันแข็งแกร่งในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก

ตลอดการแข่งขันสามนัด เชลซีร่วงออกจากอันดับสี่หลังจากเผชิญกับความยากลำบาก ขณะที่ลิเวอร์พูลและท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ต่างคว้าชัยชนะเพื่อเสริมความมั่นคงในตำแหน่งแชมเปี้ยนส์ลีก รอบนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงโชคชะตาที่แตกต่างกันของทีมในพรีเมียร์ลีกในการแข่งขันยุโรป พร้อมทั้งปูทางให้เกิดความน่าสนใจเพิ่มเติมทั้งในลีกภายในประเทศและแคมเปญระดับทวีป