ในรอบที่สามของรอบแบ่งกลุ่มแชมเปียนส์ลีก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เสมอ 0-0 กับ เอเอส โมนาโก ในเกมเยือน ตลอดการแข่งขัน แฮร์รี เค인 ผู้เล่นคนสำคัญ ทำผลงานได้ไม่ดีนัก ไม่สามารถสร้างอิทธิพลที่สำคัญได้ และต้องทนกับค่ำคืนที่น่าจดจำอีกครั้ง

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้เซ็นสัญญากับ ฮาร์วีย์ ซิมอนส์ จากเชลซี ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อนที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวรวม 70 ล้านยูโร (ประกอบด้วยค่าตัวคงที่ 60 ล้านยูโร และโบนัสตามผลงาน 10 ล้านยูโร) ซึ่งการย้ายทีมครั้งนี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างเร่งรีบอย่างไรก็ตาม ผลกระทบของเขาภายในทีมจนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ในการลงสนาม 9 นัดในพรีเมียร์ลีก, แชมเปียนส์ลีก และลีกคัพ ซิมอนส์ทำได้เพียง 1 แอสซิสต์เท่านั้น แม้จะมีความสามารถทางเทคนิคที่ละเอียดอ่อนและการควบคุมบอลที่ยอดเยี่ยม แต่ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขายังคงเป็นจุดด้อยที่เห็นได้ชัด การตัดสินใจภายใต้ความกดดันยังช้า และการมีส่วนร่วมในเกมรับยังคงมีน้อยมาก จังหวะในการจ่ายบอล, การเลี้ยงบอล และการยิงของเขาก็แสดงให้เห็นถึงการขาดความเป็นผู้ใหญ่ฮาร์วีย์ ซิมมอนส์ เป็นตัวแทนของต้นแบบกองกลางตัวรุกแบบคลาสสิกดั้งเดิม ผู้เล่นประเภท 'ประดับ' เช่นนี้มักประสบปัญหาในการรักษาฟอร์มการเล่นอย่างสม่ำเสมอในสภาพแวดล้อมที่มีความเข้มข้นสูงและรวดเร็วของพรีเมียร์ลีก ในทางตรงกันข้าม วิร์ตซ์ เพื่อนร่วมทีมได้รับความสนใจจากสื่ออย่างมาก ในขณะที่ฟอร์มการเล่นที่ไม่โดดเด่นของฮาร์วีย์ ซิมมอนส์ กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดรั้งผลงานโดยรวมของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

ในขณะเดียวกัน โครงสร้างทีมของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์กำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ การจากไปติดต่อกันของแฮร์รี เค인 และซน ฮึง-มิน ได้ทำให้ทีมสูญเสียประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดสิบปี และจิตวิญญาณของทีมไป ทำให้ทีมขาดแกนหลักที่แข็งแกร่ง โธมัส ฟรังค์ ซึ่งได้พิสูจน์ความสามารถของเขาในการประสบความสำเร็จกับสโมสรชั้นนำในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่เบรนท์ฟอร์ด ต้องเผชิญกับความเป็นจริงของทีมที่ขาดผู้นำในขณะนี้คูดส์ ดูเหมือนจะเหมาะกับบทบาทของกองหน้าที่มีพลังมากกว่า ขณะที่อนาคตของซิมีนในพรีเมียร์ลีกยังคงไม่แน่นอน ด้วยการสิ้นสุดของคู่หู "ซน-เคน" บททดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแฟรงค์อยู่ที่ว่าเขาสามารถผสานทีมที่มีอยู่ให้เข้ากันได้และนำท็อตแนมกลับสู่ทิศทางที่ชัดเจนได้หรือไม่
